ทำเอาบรรดาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรุ่นใหม่อย่าง "ปลา-อัจฉรา บุรารักษ์" เจ้าของไอศกรีมชื่อดัง ไอเบอรี่ หรือ ก้อง-อดิศักดิ์ รักอริยพงค์" เจ้าของน้ำผลไม้รวมยี่ห้อ บิวตี้ ดริ้งค์ หรือแม้แต่เจ้าของโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 2 อย่าง "ศีขรินทร์ ชเนศร์" ต้องเปลี่ยนทัศนคติกับการทำงานของ คนภาครัฐ แบบหลังมือเป็นหน้ามือทีเดียวหลังจากได้ร่วมทริปเดินทางไปเปิดตลาดหาช่องทางการลงทุนที่ประเทศญี่ปุ่นกับทีทีอาร์อย่าง "ดร.วัชระ พรรณเชษฐ์" เพราะได้ประสบการณ์ตรงกับตัวเองจากที่เคยมองว่าคนของภาครัฐเฉื่อยชา พอมาเจอทีทีอาร์คนนี้คนนี้คนละเรื่องกันทีเดียว เพราะว่าท่านทีทีอาร์ทำงานแบบปรู๊ดปร๊าด ขนาดเอกชนรุ่นใหม่ไฟแรงยังตามไม่ทัน ทำเอา... ดร.วัชระ หน้าเเดงขึ้นมากะทันหันทันที

ส่วนบรรดาที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีที่มีนัดทานข้าวตอนเช้าทุกวันศุกร์เวลา 07.00 น. กับนายกรัฐมนตรี กำลังออกอาการ เบื่อ อย่างแรงเพราะอาหารเช้ากับนายกฯ นอกจากไม่อร่อยแล้วยังเป็นเมนูเดิมๆอย่าง ข้าวต้มกุ้งหรือโจกหมู ก่อนตบท้ายด้วยกาแฟและปาท่องโก๋ แต่...ไม่ว่าจะเบื่ออาหารแค่ไหน แต่พลังที่อยู่ในสมองไม่เคยมอด เพราะมีสารพัดเรื่องที่ต้องแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันแม้ว่าจะไม่ใช่เวทีสรุปทุกเรื่องแต่ก็เป็นเวทีที่นายกฯรับฟังทุกคำแนะนำเช่นกัน

ด้าน"วัชระ กรรณิการ์" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รู้ลึกถึงสัจธรรมของการเล่นการเมืองว่าต้องเป็นผู้มีเงินจริงๆเท่านั้น เพราะทุกวันนี้ต้องเสียค่าภาษีสังคมปาเข้าไปเดือนละ 3 แสนบาท ขณะที่รับเงินเดือนไม่กี่หมื่นบาท ผิดกับช่วงที่ยังไม่เข้าสู่แวดวงและรับงานเป็นพิธีกรมีเงินเดือนละเป็นล้าน แถมภาษีสังคมก็ไม่มี ทุกวันนี้ต้องกินบุญเก่าแถมยังถูกภรรยาว่าเอาอีก แต่ไม่ว่าจะอย่างไรงานนี้ รองโฆษกฯ บอกว่าแม้จะรู้ซึ้งแต่ยังไงก็ขอทำหน้าที่ทางการเมืองต่อไปและขอยืนยันหนักแน่นว่าที่ผ่านมากว่า 1 ปี ไม่เคยนอกลู่นนอกทางสักบาทเดียว

ส่วน ขุนคลัง "กรณ์ จาติกวนิช" ก็ขนบรรดาผู้บริหารระดับสูงชุดใหม่ที่สับเปลี่ยนโยกย้ายทั้ง 12 คน ตั้งแต่ปลัดกระทรวงฯอธิบดีกรมจัดเก็บภาษีทั้ง 3 กรมรวมไปถึงรองปลัดกระทรวง ผู้ตรวจราชการมาโชว์ตัวก่อนให้ปลัดกระทรวงคนปัจจุบันอย่าง "สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์" ออกมาการันตีคุณสมบัติเฉพาะตัวสยบข่าวลือสารพัด...ส่วนจะสยบได้มากน้อยแค่ไหนก็ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ต่อไป